Past Perfect Tense คือ?
Past Perfect คือ tense ที่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว ก่อนที่จะมีอีกเหตุการณ์เกิดตามมา ซึ่งทั้ง2เหตุการณ์นั้นจบลงไปแล้วในอดีต ซึ่งมักจะใช้คู่กับ Past Simple Tense อาจจะดูงงๆว่ามันอะไร ยังไง ลองไปค้นหามันกันเถอะ
โครงสร้างประโยค Past Perfect Tense
ประโยคบอกเล่า | Subject + had + V.3 | She had cleaned her room. |
ประโยคปฏิเสธ | Subject + had not + V.3 | She had not cleaned her room. |
ประโยคคำถาม | Had + Subject + V.3 | Had she cleaned her room? |
ซึ่งจากโครงสร้างด้านบนขึ้นเกิดขึ้นเหตุการณ์ที่ 1 แต่เมื่อเหตุการณ์ที่ 2 มาแทรก และจบลงแล้ว ให้ใช้ Past Simple Tense (S. + V.2)ต่อประโยคได้เลย ซึ่งจะมีการใช้คำเชื่อม เช่น when หรือ before เพื่อเชื่อมเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ลองมาดูตัวอย่างประโยคกัน
เหตุการณ์ที่ 1 ใช้ Past Perfect | คำเชื่อม | เหตุการณ์ที่ 2 ใช้ Past Simple | คำแปล |
She had cleaned his room. | before | she left home. | เขาทำความสะอาดห้องก่อนที่จะออกจากบ้าน |
The airplane had left | when | we got to the airport. | เครื่องบินออกไปแล้วเมื่อเราไปถึงสนามบิน |
Tips: เนื่องจาก Past Perfect Tense คือการพูดถึง 2 เหตุการณ์ในอดีตที่มีเวลาใกล้เคียงกัน ดังนั้นให้เราจะพบคำเชื่อมที่อยู่ในประโยค อย่าง after, already, just, yet, until, till, as soon as, when, by the time นั่นเอง
หลักการใช้ Past Perfect Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงก่อนจะใช้ Past Perfect ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากนั้น ใช้ Past Simple ซึ่งจะมีคำเชื่อมระห่าง 2 Tense นี้ คือ
- Before = ก่อนที่จะ
- After = หลังจากที่
- Because = เพราะว่า
- When = เมื่อ
- By the time = ในตอนที่
ลองมาดูตัวอย่างประโยคกัน
- The train had left by the time I got to the station. = รถไฟได้ออกไปแล้วในตอนที่ฉันถึงสถานี
- Mark had established the company before 2010. = มาร์คได้ก่อตั้งบริษัทก่อนปี 2010
- After the alarm had rung, she woke up. = หลังจากที่นาฬิกาปลุกดัง เธอก็ตื่น
- She couldn’t call anyone because she hadn’t brought his phone with him. = เธอไม่สามารถโทรหาใครได้เลยเพราะเธอไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย
- When she arrived home, her boyfriend had already cooked dinner. = เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน แฟนของเธอก็ทำอาหารเย็นเสร็จแล้ว
Tips:
- After + Past Perfect + Past Simple
- Before + Past Simple + Past Perfect
2. ใช้ในประโยครายงาน หรือเรียกว่า Indirect speech หรือ Reported speech โดย Past Perfect สามารถใช้แทน Present Perfect และ Past Simple ได้ เช่น
2.1 Past Simple เปลี่ยนเป็น Past Perfect ใน Indirect speech
Direct speech | คำแปล |
He said, “I decided to leave earlier today.” | เขาบอกว่า “ผมตัดสินใจจะออกไปในเร็วขึ้นวันนี้” |
Indirect speech | คำแปล |
He said that she had decided to leave earlier that day. | เขาบอกว่าคุณตัดสินใจว่าจะออกไปให้เร็วขึ้นในวันนั้น |
2.2 Present Perfect เปลี่ยนเป็น Past Perfect ใน Indirect speech
Direct speech | คำแปล |
He said, “My dad hasn’t arrived yet.” | เขาบอกว่า “พ่อของเขายังมาไม่ถึงเลย” |
Indirect speech | คำแปล |
He said that his dad hadn’t arrived yet. | เขาบอกว่าพ่อของเขายังมาไม่ถึงเลย |
2.3 ใช้ wish + Past Perfect เพื่อแสดงถึงความไม่พอใจกับเหตุการณ์ในอดีต เช่น
- I wished I had told the truth. = ฉันหวังว่าฉันจะได้บอกความจริง (แต่ในอดีตไม่ได้บอก)
- She wished she had seen her friend. = เธอหวังว่าจะได้เจอเพื่อนของเธอ (แต่เธอก็ไม่ได้เจอในอดีต)
- The girl wished she had asked another question. = เด็กหญิงคนนั้นหวังว่าจะได้ถามอีกซักคำถาม
(แต่ก็ไม่ได้ถามในอดีต)
เป็นยังไงกันบ้างกับ Past Perfect Tense มีจุดให้จับทางเยอะมากๆเลยใช่มั้ย แต่อย่าพึ่งจำสลับกับ Present Perfect กันนะ ถึงจะมีความคล้ายกันแต่แตกกัน ถ้าใครกลัวสับสนสามารถย้อนกลับไปทบทวนกันใหม่ได้ตลอดได้เลย ในบทความต่อไปจะถึง Tense สุดท้ายของจักรวาล Past Tense กันแล้ว ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักกับ Past Perfect Continuous Tense ว่ามันคืออะไร? กันเลย